บทคัดย่อวิเคราะห์ถึงสภาพการเมืองและการปกครองในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้ศึกษาว่า จากการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปฏิรูปการปกครอง ยกเลิกระบบจตุสดมภ์ และจัดระบบบริหารราชการให้เป็นระเบียบนั้น มิได้เป็นที่ปรากฏว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงดำเนินการต่อมา กล่าวได้ว่า การสร้างสรรค์สถาบันทางการเมือง เพื่อการเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชนมิได้บังเกิดขึ้นนับตั้งแต่การปฏิรูปการปกครองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนกระทั่งถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 การศึกษาในแนวทางดังกล่าวนี้ ได้เน้นหนักไปยังบทบาทและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นทั้งองค์พระประมุขและผู้นำทางการเมืองในขณะเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้รับการศึกษาอบรมจากต่างประเทศ แม้ว่าการที่ทรงประทับศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ เป็นเวลานานจะทำให้พระองค์ได้รับอิทธิพลทางด้านความคิดและทัศนคติของตะวันตก และได้นำแนวความคิดนี้บางอย่าง เช่นลัทธิชาตินิยม และวิถีการดำเนินชีวิตแบบตะวันตกมาปรับให้เข้ากับสภาพการของสังคมไทย ดังจะเห็นได้จากพระราชดำรัส และบทพระราชนิพนธ์ของพระองค์เกี่ยวด้วยเรื่องดังกล่าวก็ตาม แต่ในด้านแนวพระราชดำริ บทบาท และพระบรมราโชบายทางการเมืองนั้นเห็นได้ชัดว่า พระองค์ยังคงมีความนิยมในระบอบการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นอย่างมากและมิได้ทรงตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมและแนวความคิดประชาธิปไตยตะวันตก ซึ่งอยู่ในหมู่ปัญญาชนผู้ได้รับการศึกษาในขณะนั้น พระองค์ทรงนิยมที่จะรวมอำนาจการปกครองมาอยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ การเสด็จประพาสเยี่ยมเยียนราษฎร การย้ายสังกัดตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลจากกระทรวงมหาดไทยมาขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์นั้น ล้วนแต่เป็นเครื่องสะท้อนถึงแนวพระราชดำริทางการเมืองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระองค์ทั้งสิ้น พระราชดำริและพระบรมราโชบายเช่นนี้นับว่าแตกต่างไปจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงนิยมที่จะแบ่งปันพระราชอำนาจและภาระบางอย่างให้แก่ระบบการเมืองย่อยอันจะเป็นวิถีทางที่นำไปสู่การปกครองตนเองในที่สุด ด้วยพระราชดำริและพระบรมราโชบายที่ไม่สอดคล้องไปกับการพัฒนาและความสำนึกทางการเมืองที่ได้เกิดขึ้นในหมู่ปัญญาชนสมัยนั้น บวกกับภาวะวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา ได้ทำให้กลุ่มปัญญาชนที่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองถือเป็นสาเหตุทำการรัฐประหารขึ้นใน พ.ศ. 2475 และได้ทำให้พระราชอำนาจอันสมบูรณ์ของพระมหากษัตริย์สิ้นสุดลงนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา